รอยสิวเกิดจากอะไร?

รอยสิวมักเกิดจากปัจจัยหลายประการที่ส่งผลต่อกระบวนการซ่อมแซมผิวและการฟื้นฟูหลังการอักเสบของสิว โดยหมอหนึ่งได้รวบรวมสาเหตุหลัก ๆ ที่พบบ่อยจากคนไข้ของ The mila clinic มาให้แล้ว

สาเหตุของรอยสิว

  • การอักเสบของสิว: สิวอักเสบส่งผลต่อการเกิดผิวบวมและระคายเคือง ซึ่งทำให้เกิดรอยดำ ๆ แดง ๆ เมื่อการอักเสบหาย หากรักษาสิวไม่ถูกวิธีก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสที่จะเกิดรอยสิว
  • แผลเป็นหลังการบีบสิว: การกดหรือบีบสิวไม่ถูกวิธีจะทำให้เกิดการบาดเจ็บที่ผิวหนังและส่งผลให้เกิดแผลเป็นหรือรอยหลุม
  • การดูแลผิวไม่ถูกต้อง: การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมรุนแรงหรือไม่เหมาะสมกับสภาพผิวอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและการอักเสบซ้ำ ทำให้ปัญหาสิวเกิดขึ้นซ้ำซากและรักษาไม่หายขาด

พฤติกรรมที่ทำให้รอยสิวแย่ลง หายช้า รักษานาน

ต้องยอมรับเลยว่าหลาย ๆ พฤติกรรมของคนในยุคนี้สามารถทำให้รอยสิวลุกลามหรือฟื้นฟูได้ยากขึ้น อาทิ

  • ไม่ใช้ครีมกันแดด: การไม่ปกป้องผิวจากแสงแดดอาจทำให้ผิวบอบบาง เกิดสิวง่าย รอยสิวที่มีอยู่ก็คล้ำขึ้น และยืดเวลาในการฟื้นฟูรอยสิวให้นานขึ้นไปอีก
  • การแกะหรือบีบสิว: การกดสิวอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่ผิวหนังและเพิ่มโอกาสการเกิดแผลเป็น
  • การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว: ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดบางชนิดทำให้ผิวยิ่งบอบบาง แพ้ง่าย เกิดสิวขึ้นซ้ำซาก และทำให้รอยสิวรักษายากขึ้น

วิธีรักษารอยสิว ลดจุดด่างดำที่ได้ผล การใช้ครีมลดรอยสิว

การเลือกครีมลดรอยสิวที่เหมาะสมช่วยลดเลือนรอยสิวได้ โดยสารสำคัญที่มีประสิทธิภาพ ได้แก่

  • กรดทรานเอกซามิก (Tranexamic Acid): กรดทรานเอกซามิกช่วยลดรอยดำโดยการยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว ทำให้รอยดำจางลงและผิวกระจ่างใสขึ้น
  • ไนอาซินาไมด์ (Niacinamide): มีคุณสมบัติที่ช่วยลดการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และทำให้ผิวดูกระจ่างใส
  • อาร์บูติน (Arbutin): อาร์บูตินจะเข้าไปยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญในการสร้างเม็ดสี
    วิตามินซี (Ascorbic Acid): ช่วยในกระบวนการสร้างคอลลาเจนของร่างกายและการสร้างเนื้อเยื่อใหม่
  • กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid): ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนชั้นผิวหนังของคุณ ทำให้ผิวดูกระจ่างใสและเรียบเนียนขึ้น

การใช้สมุนไพรธรรมชาติ

สมุนไพรบางชนิดมีคุณสมบัติลดรอยสิว ช่วยปรับผิวให้สว่างใส และยับยั้งการสร้างเม็ดสี เช่น

  • สารสกัดจากชะเอมเทศ (Liquorice): ชะเอมเทศมีคุณสมบัติช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใส และลดการเกิดรอยดำจากสิวหรือการบาดเจ็บจากการกำจัดไฝ โดยการยับยั้งการผลิตเม็ดสี (Melanin) และมีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ช่วยให้ผิวฟื้นฟูได้เร็วขึ้นหลังจากการระคายเคือง
  • เนื้อมะขาม (Tamarind Pulp): มะขามมีคุณสมบัติเป็นสารบำรุงผิวธรรมชาติและช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่หมองคล้ำ มีสารอาหารที่ช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นและสมานแผล ทำให้ลดรอยด่างดำจากสิวได้ดี

การรักษาทางการแพทย์

เลเซอร์: ใช้พลังงานเลเซอร์ช่วยลดรอยแดงจากการอักเสบ (Post-Inflammatory Erythema – PIE) และรอยดำหลังสิวหาย (Post-Inflammatory Hyperpigmentation – PIH) โดยเลเซอร์จะปล่อยคลื่นแสงที่มีความยาวคลื่นเฉพาะเพื่อเจาะลึกลงไปในชั้นผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและผลัดเซลล์ผิวใหม่

  • Laser: เลเซอร์ลดรอยดำโดยการปล่อยพลังงานที่มีความยาวคลื่นเฉพาะไปทำลายเม็ดสี melanin ที่ผิดปกติ ทำให้รอยดำจางลง และลดรอยแดงด้วยการลดทำให้เส้นเลือดหัวและลดอาการอักเสบ
  • IPL (Intense Pulsed Light):ปล่อยพลังงานแสงเพื่อลดรอยแดงของ PIE และลดเม็ดสี melanin เพื่อลดรอยดำช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอ
  • Fractional CO2 Laser:มีประสิทธิภาพในการลดรอยดำ PIH และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
  • Fractional RF (Fractional Radiofrequency):ใช้พลังงานคลื่นวิทยุช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยปรับสภาพผิว ลดรอยสิว และปรับสีผิวให้เรียบเนียนขึ้น
  • การลอกผิวด้วยสารเคมี (Chemical Peels): ผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกเพื่อกระตุ้นการสร้างเซลล์และเนื้อเยื่อผิวใหม่ สามารถช่วยลดจุดด่างดำได้

การดูแลผิวหลังการรักษารอยสิว

มีความสำคัญในการฟื้นฟูผิวและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง โดยวิธีที่นิยมจะมีดังนี้

  • การใช้มอยส์เจอไรเซอร์: ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและป้องกันการแห้งลอกของผิว ทำให้ปราการผิวแข็งแรงขึ้น
  • การหลีกเลี่ยงแสงแดด: ควรใช้ครีมกันแดด SPF50+++ และหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงเพื่อป้องกันการระคายเคืองและรอยคล้ำ
  • หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์รุนแรง: สารที่รุนแรงสามารถทำร้ายผิวได้ เช่น สครับหรือกรดเข้มข้นที่สามารถทำให้ผิวอักเสบ
  • ดื่มน้ำเพียงพอ: เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและช่วยให้ผิวฟื้นฟูจากภายใน
Scroll to Top