ในยุคที่ผิวหน้าสะอาด กระจ่างใส คือเสน่ห์อันดับหนึ่งของคนยุคใหม่ “เลเซอร์หน้าใส” จึงกลายเป็นหนึ่งในหัตถการยอดนิยมในคลินิกความงาม เพราะสามารถช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึก เห็นผลเร็ว โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นนาน

เลเซอร์หน้าใสคืออะไร?

เลเซอร์หน้าใส (Laser Facial Rejuvenation) คือ การใช้พลังงานแสงเลเซอร์ยิงลงไปยังผิวชั้นลึก เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเม็ดสี ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน และลดปัญหาต่างๆ บนใบหน้า เช่น:

• รอยสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ
• สีผิวไม่สม่ำเสมอ
• ริ้วรอยตื้นๆ
• รูขุมขนกว้าง
• ผิวหมองคล้ำ ขาดความกระจ่างใส

เลเซอร์หน้าใส เหมาะกับใคร?

• ผู้ที่มีรอยดำ รอยสิว หรือผิวไม่สม่ำเสมอ
• คนที่ต้องการฟื้นฟูผิวแบบไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น
• ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง และริ้วรอยเล็กๆ
• ผู้ที่เคยรักษาสิวแล้วมีรอยหลงเหลือ
• คนที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจในผิวหน้า

ประเภทเลเซอร์หน้าใสที่นิยม

1. IPL (Intense Pulsed Light)  ช่วยลดรอยแดง จุดด่างดำ และกระตุ้นคอลลาเจน
2. Q-Switch Laser  เหมาะสำหรับรอยดำเม็ดสี เช่น ฝ้า กระ และรอยสัก
3. Fractional Laser / CO2 Laser  ใช้ในกรณีที่ต้องการผลลัพธ์ลึก เช่น หลุมสิว
4. Pico Laser  เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ยิงเร็วและแม่นยำ เห็นผลไว ลดการระคายเคือง

หลังทำเลเซอร์หน้าใส ต้องดูแลตัวเองอย่างไร?

• หลีกเลี่ยงแดดจัด 5–7 วันหลังทำ
• ใช้ครีมบำรุงและกันแดดที่แพทย์แนะนำ
• ห้ามขัดผิวหรือใช้กรดผลไม้/วิตามินซีเข้มข้นในช่วง 1 สัปดาห์แรก
• ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ผิวฟื้นตัวเร็ว
• หากมีรอยแดง/สะเก็ดเล็กๆ เป็นอาการปกติ ไม่ควรแกะ

ทำเลเซอร์หน้าใสบ่อยแค่ไหนถึงเห็นผล?

• โดยทั่วไปแนะนำทำ ทุก 2–4 สัปดาห์ ต่อเนื่องประมาณ 3–5 ครั้ง (ขึ้นอยู่กับปัญหาผิว) หลังจากนั้นสามารถทำเป็นประจำเดือนละครั้งเพื่อรักษาผลลัพธ์